กลอนจีน ลำนำบนหอโยวโจวไถ 登幽州台歌 โดย เฉินจื่ออ้าง 陈子昂

กลอนจีน ลำนำบนหอโยวโจวไถ 登幽州台歌 โดย เฉินจื่ออ้าง 陈子昂

登幽州台歌 – 陈子昂

前不见古人,后不见来者。

念天地之悠悠,独怆然而涕下。

ลำนำบนหอโยวโจวไถ 登幽州台歌 เฉินจื่ออ้าง 陈子昂 (ถัง)

เบื้องหน้ามองไม่พบผู้ใด ย้อนกลับไปไม่เห็นผู้ใด

ฟ้าดินเวิ้งว้างเศร้าเหงาใจ โดดเดี่ยวเปลี่ยวเศร้าสร้อย หลั่งน้ำตา

เฉินจื่ออ๋างเป็นขุนนางผู้ปราดเปรื่องในรัชสมัยจักรพรรดินี บูเช็กเทียน เฉินจื่ออ๋างเขียนฏีกาถวายความเห็นทางการเมืองต่อจักรพรรดินี พระนางโปรดปรานเลื่อนตำแหน่งให้

ต่อมา เกิดกบฎชนเผ่าชีตาน จักรพรรดินี แต่งตั้งให้พระญาติชื่อ อู่ชิวอี้ เป็นแม่ทัพยกไปปราบ เฉินจื่ออ๋างเป็นเสนาธิการที่ปรึกษา อู๋ชิวอี้ไร้ความสามารถ และไม่ยอมเชื่อคำแนะนำของเฉินจื่ออ๋าง สุดท้ายพ่ายศึก แต่ราชสำนักกลับลงโทษเฉินจื่ออ๋าง ปลดเป็นสามัญชน แล้วถูกนายอำเภอที่บ้านเกิดทำร้ายสิ้นชีวิต

หลังจากเฉินจื่ออ๋างถูกลงโทษ วันหนึ่งเขาเดินขึ้นไปบนเนินหอโยวโจว มองภูมิทัศน์ท้องฟ้ากว้างไกล รู้สึกถึงความเดียวดาย หดหู่ สิ้นหวังกับวงการเมือง จึงขับลำนำกวีบทนี้ขึ้นมา

โยวโจวไถ หอโยวโจว จินไถ หรือเป็นที่รู้จักในชื่อจี้เป่ยโหลว 蓟北楼 ปัจจุบันตั้งอยู่ในเขตต้าซิ่ง กรุงปักกิ่ง สร้างขึ้นโดยเยียนเจาหวัง จ้าวแคว้นเยียน เพื่อต้อนรับผู้มีความสามารถ และนักปราชญ์

วรรคแรก หมายถึง ข้างหน้าไม่เห็นปราชญ์บัณฑิตยุคก่อนผู้ปรีชาสามารถ

วรรคสอง หมายถึง ข้างหลังก็ยังไม่ปรากฏำปราชญ์บัณฑิตรุ่นหลังผู้ปรีชาสามารถ (เติบโตขึ้นมาทันกับความจำเป็นที่ต้องแก้ไขสถานการณ์บ้านเมือง)

วรรคสาม หมายถึง ฟ้าดินเวิ้งว้างกว้างใหญ่นัก (ตัวเราเล็กจ้อย ไร้ปรีชาสามารถ)

วรรคที่สี่ แสดงถึงความ รู้สึกโดดเดี่ยว (ไม่มีใครมีอุดมคติทางการเมืองเช่นเดียวกัน) เศร้าโศกจนต้องหลั่งน้ำตา