หวังฝูจิ่ง (王府井) ชมอาหารแปลก ณ กรุงปักกิ่ง
ถนนหวังฝูจิ่ง เป็นถนนคนเดิน ตั้งอยู่ในย่านการค้าหวังฝูจิ่ง ซึ่งเป็นย่านการค้าหลัก 1 ใน 4 แห่งของกรุงปักกิ่ง ได้แก่
หวังฝูจิ่ง (王府井) ซีตัน (西单) หลิวหลีฉ่าง (琉璃厂) และต้าจ้าหลาน (大栅栏) โดยถนนหวังฝูจิ่งนั้นตั้งอยู่ทางทิศตะวันออกของพระราชวังต้องห้ามและจตุจัสเทียนอันเหมิน
ประวัติถนนหวังฝูจิ่ง
หวังฝูจิ่ง มีต้นกำเนิดในสมัยราชวงศ์หยวน (ค.ศ. 1279-1368) และได้รับการตั้งชื่อในสมัยราชวงศ์หมิง
คำว่า “หวังฝูจิ่ง ” แปลว่า บ่อน้ำของตำหนักท่านอ๋อง
ตำนานของหวังฝูจิ่ง คือ ในสมัยนั้น จักรพรรดิเกรงว่าพี่น้องของพระองค์จะก่อการกบฏ จึงได้สร้างตำหนักให้พี่น้องทั้ง 10 ของพระองค์อยู่รวมกัน เพื่อให้ง่ายต่อการควบคุม ณ ตำหนักนี้ มีบ่อน้ำอยู่บ่อหนึ่ง ตั้งอยู่ในศาลาหกมุมที่งดงาม นอกจากจะมีน้ำมากแล้วยังมีรสชาติที่หอมหวานอีกด้วยจนกระทั่งในปีหนึ่ง เกิดภัยแล้งขึ้นทั่วบริเวณกรุงปักกิ่ง ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนกันเป็นอย่างมาก บ่อน้ำเกือบทุกบ่อในกรุงปักกิ่งต่างก็แห้งไปหมด ยกเว้นบ่อน้ำในตำหนักของท่านอ๋อง ท่านอ๋องผู้เป็นเจ้าของตำหนักในเวลานั้นเป็นคนใจร้าย จึงสั่งยามเฝ้าประตูห้ามมิให้คนแปลกหน้าเข้ามาเอาน้ำ แต่ยามผู้นี้มีจิตใจดี แอบให้ชาวบ้านเข้ามาตักน้ำในขณะที่ท่านอ๋องกำลังนอนหลับอยู่ ต่อมา ท่านอ๋องได้ทราบความจริง จึงได้ตำหนิยามเก่าแก่ผู้ซื่อสัตย์ผู้นี้ ยามตอบว่า “เป็นความจริงที่ข้าพเจ้าได้ให้น้ำในบ่อของเราไป แต่ที่ข้าพเจ้าทำไปก็เพื่อท่านอ๋อง ท่านลองคิดดูว่า เรายังต้องการแรงงานคนมาขนย้ายเสบียงของท่าน ถ้าชาวบ้านเสียชีวิตจากความกระหายไปหมด แล้วใครจะมาทำงานให้กับท่านเล่า” ท่านอ๋องได้ยินดังนั้นแล้วก็คิดได้ และอนุญาตให้ผู้คนทั้งหลายมาเอาน้ำจากบ่อนี้ได้ จากนั้นเป็นต้นมา จำนวนผู้คนที่มาตักน้ำจากบ่อนี้ก็มากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ชื่อเสียงของหวังฝูจิ่งขจรขจาย และกลายมาเป็นชื่อเรียกของพื้นที่แถบนี้ไปโดยปริยาย
หวังฝูจิ่ง ในยุคปัจจุบัน
ถนนหวังฝูจิ่งได้รับการพัฒนาให้เป็นถนนการค้า แต่ยังคงรูปแบบของบรรยากาศทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเอาไว้
โดยถนนหวังฝูเป็นศูนย์รวมของร้านค้าแบรนด์เนมและแฟชั่นสมัยใหม่ อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวต่างชาติ
สถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญที่ใคร ๆ มาหวังฝูจิ่ง ต้องแวะมาเยี่ยม นั่นคือ ถนนอาหารแปลก ซึ่งเป็นตรอกเล็ก ๆ บนถนนหวังฝูจิ่ง เปิดเฉพาะตอนกลางคืน
ถนนเส้นนี้เป็นที่รวมสารพัดของแปลก อย่างเช่น ปลาดาว ม้าน้ำ หอยเม่น ตะขาบ แมลงป่อง แมงป๋อง ตัวเป็น ๆ เอามาทอดให้เหลืองกรอบ
ซึ่งอาหารเหล่านี้ ชาวจีนเชื่อว่ากินแล้วบำรุงร่างกาย
นอกจากนี้ยังมีร้านขายปิงถังหูลู (冰糖葫芦 : Bīngtánghúlu) ขนมยอดนิยมของคนจีน
ที่มาของชื่อปิงถังหูลู
ปิง (冰) แปลว่า เย็น, น้ำแข็ง ถัง (糖) แปลว่า น้ำตาล หูลู (葫芦) แปลว่า น้ำเต้า ซึ่งคนจีนจะเรียกสิ่งของที่ร้อยเรียงกันว่าน้ำเต้า (หูลู่ : 葫芦) เมื่อรวมกันจึงแปลตรงตัวได้ว่า “น้ำเต้าเคลือบน้ำตาลเย็น” แต่ความจริงหมายถึง “ผลไม้ที่เสียบไม้เรียงกันเคลือบน้ำตาลเย็น” นั่นเอง
ขนมปิงถังหูลู นี้ เป็นขนมหวานโบราณยอดนิยมชนิดหนึ่งของจีน ทำจากผลซานจาสด ร้อยไม้เรียงกันแล้วนำไปเคลือบน้ำตาล รสชาติจะเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ ปิงถังหูลู มักจะถูกนำมาเร่ขายเฉพาะช่วงที่อากาศหนาวเย็น เช่น ฤดูไม้ร่วง ฤดูหนาว และฤดูใบไม้ผลิเพราะน้ำตาลจะแข็งตัวเร็วและละลายช้า จึงมักไม่ถูกนำมาเร่ขายตามท้องถนนทั่วไปในฤดูร้อน
ในยุคโบราณ มีแต่การใช้ผลซานจา (山楂) นำมาทำขนมชนิดนี้ แต่ในปัจจุบัน ผลไม้ที่ถูกนำมาทำขนม “ปิงถังหูลู”มีหลายหลายมากขึ้น ที่สำคัญขนมชนิดนี้ คนไทยหลายคนมักเข้าใจผิดว่าทำจากผลพุทรา (枣子) ความจริงแล้วผลซานจา (山楂) กับผลพุทรา เป็นผลไม้คนละชนิดกัน
ผลซานจา (山楂) | ผลพุทรา (枣子) |
ในครั้งนี้ เราได้ลอง ปิงถังหูลู่ ที่เป็นผลสตรอว์เบอร์รี เชื่อมน้ำตาล ราคาสำหรับนักท่องเที่ยวคือ ไม้ละ 20 หยวน แต่ถ้าเป็นซานจา ทั่วไป จะราคา 10 หยวน
นอกจากถนนอาหารนานาชาติ แล้ว ตลอดเส้นทางบนถนนหวังฟู่จิ่ง เต็มไปด้วยร้านค้าแบรนด์เนม และห้างสรรพสินค้ามากมาย
เมื่อ Shopping และท่องเที่ยวจนอิ่มใจแล้ว เราก็สามารถเดินทางกลับที่พักจากสถานีรถไฟใต้ดิน หวังฟูจิ่งได้
การเดินทางไปถนนหวังฝูจิ่ง
- ขึ้นสถานีรถไฟใต้ดิน สาย 1 ลงที่สถานีหวังฝูจิง
- สำหรับผู้เดินทางมาจาก Jingshan Park (เที่ยวพระราชวังต้องห้าม>สวนจิงซาน>หวังฝูจิ่ง) สามารถขึ้นรถเมล์จากฝั่งพระราชวังต้องห้าม สาย 103