วัดพระหยก เซี่ยงไฮ้

วัดพระหยก 玉佛禅寺 The Jade Buddha Temple เป็นหนึ่งในสี่วัดจีนที่มีชื่อเสียงในเมืองเซี่ยงไฮ้ 上海四大佛寺 ที่นี่เป็นสถานที่ประดิษฐานพระหยก ซึ่งเป็นที่มาของชื่อวัด

ประวัติ

วัดพระหยก สร้างขึ้นในปี 1882 เพื่อรักษาพระหยกจากประเทศเมียนมาร์จำนวน 2 องค์ ซึ่งเป็นปางนั่ง 1 องค์และปางไสยาสน์องค์เล็ก 1 องค์ และในปัจจุบันวัดพระหยก ยังมี พระพุทธปางไสยาสน์ ซึ่งทำจากหินอ่อน จากสิงค์โปร์ ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่า อีก 1 องค์ด้วย

ในปีที่ 8 ของจักรพรรดิ์กวางซี แห่งราชวงศ์ชิง (1882) พระภิกษุฮุ่ยเกิน 慧根 แห่งผู่ถัวซาน 普陀山 ได้เดินทางตามรอยของพระภิกษุเสวียนจ้าง (พระถังซัมจั๋ง) แห่งราชวงศ์ถัง ไปแสวงบุญยังทิเบต ผ่านอู่ไถซาน และเอ๋อเหมยซาน (ง๊อไบ๊) เสฉวน ไปยังทิเบต พอหลังจากการแสวงบุญจากทิเบต ท่านได้เดินทางไปยังอินเดีย เมียนมาร์

เมื่อเดินทางถึงเมียนมาร์ พระภิกษุฮุ่ยเกินเห็นว่าหยกจากเมียนมาร์เป็นของล้ำค่า อีกทั้งช่างแกะสลักมีฝีมือดี จึงเห็นว่าควรสลักหยกเป็นพระพุทธรูปเพื่อเผยแผ่พระพุทธศาสนา เฉินจวินผู่ 陈君普 คหบดีชาวจีนและชาวจีนในเมียนมาร์ มีความศรัทธา จึงได้บริจาคสร้างพระพุทธรูปหยก 5 องค์ ถวาย จากนั้นเมื่อถึงปีที่ 25 ของจักรพรรดิ์กวางซี (1899) พระฮุ่ยเกินจึงเดินทางกลับมายังประเทศจีน เมื่อเดินทางถึงเซี่ยงไฮ้ และเตรียมตัวเดินทางนั่งเรือต่อไปยังผู่ถัวซาน ชาวพุทธในเมืองเซี่ยงไฮ้ได้ขอพระหยกเพื่อให้ชาวเซี่ยงไฮ้ได้สักการะบูชา พระฮุ่ยเกินจึงมอบพระหยกจำนวน 2 องค์ ไว้ที่เซี่ยงไฮ้ ส่วนอีก 3 องค์ได้เชิญต่อไปยังผู่ถัวซาน

เดิมที พระพุทธรุปหยก 2 องค์ได้ถูกเชิญไปยังพื้นที่ว่างใกล้สถานีรถไฟจางฮั่วปัง เซี่ยงไฮ้ ชั่วคราว ต่อมาจึงได้มีการสร้างวัดที่บริเวณใกล้กลับสถานีเจียงวาน โดยใช้ชื่อว่า วัดพระหยก โดยมีพระฮุ่ยเกิน เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก

ต่อมา เมื่อพระฮุ่ยเกิน มรณภาพ ได้มีการสืบทอดวัดพระหยกต่อ ๆ กันมา จนถึงพระเค่อเฉิง เจ้าอาวาสรุ่นที่ 4 ของวัดพระหยก (1918) ท่านได้ทำการสรรหาสถานที่สร้างวัดพระหยกใหม่ และได้ที่ดินบริเวณถนนอันหย่วน จากนั้นใช้เวลากว่า 10 ปีในการก่อสร้าง จนเป็นวัดพระหยก แห่งเมืองเซี่ยงไฮ้ในปัจจุบัน

สถานที่สำคัญภายในวัด