หวงซาน

มีคำกล่าวว่า กลับจากภูเขาทั้งห้าไม่มองภูเขาอื่น กลับจากหวงซาน ไม่มองภูเขาทั้งห้า 五岳归来不看山,黄山归来不看岳

ภูเขาหวงซาน ตั้งอยู่ในเมืองหวงซาน ทางตอนใต้ของมณฑลอันฮุย เป็นสถานที่ท่องเที่ยวระดับ 5A ของประเทศจีน และยังถือเป็นมรดกโลก

หวงซานมีความงดงามเหมือนดังภาพวาด โดยภูมิประเทศของหวงซานมีลักษณะเป็นหุบเขาลึก มีพื้นที่โดยรวม 1,200 ตารางกิโลเมตร และเป็นพื้นที่ชมทิวทัศน์เขาหวงซาน ประมาณ 160 ตารางกิโลเมตร มียอดเขา 72 แห่ง ยอดเขาที่สูงที่สุดมีชื่อว่า ยอดเขาเหลียนฮัว หมายถึง ยอดเขาดอกบัว มีความสูงถึง 1864.8 เมตร

เดิม ภูเขาหวงซาน มีชื่อว่า ภูเขา อีซาน แปลว่าภูเขาดำ เนื่องจากยอดเขามีสีครามปนดำ และตั้งตระหง่ามท่ามกลางทะเลหมอก ต่อมา ในสมัยจักรพรรดิ์ถังเสวียนจง ได้เปลี่ยนชื่อเป็น หวงซาน

ตามตำนานที่ได้บันทึกไว้ในหนังสือเก่าแก่ของลัทธิเต๋า ในสมัยราชวงศ์ถัง มีใจความว่า ภูเขาหวงซานเป็นสถานที่บำเพ็ญฌานและเล่นแร่แปรธาตุ เพื่อกลั่นยาอายุวัฒนะ นอกจากนี้ยังเกี่ยวข้องกับ เซวียนหยวนหวงตี้ ที่เล่าขานกันว่า พระองค์ได้บำเพ็ญฌานจนสำเร็จกลายเป็นเซียน ณ ภูเขาลูกนี้

ภูเขาหวงซานมีอายุกว่า 800 ล้านปี ด้วยลักษณะทางธรณีวิทยาที่ผสมผสานกันของป่าไม้ ธารน้ำแข็งโบราณ การสร้างสรรค์ของหินแกรนิต น้ำพุร้อน และน้ำตก ประกอบกับสภาพอากาศที่เกิดจากความชื้น ปริมาณน้ำฝน รวมทั้งความร้อนจากแสงอาทิตย์ ก่อให้เกิดความสวยงามแปลกตาจนกลายเป็นเอกลักษณ์โดดเด่น

สวี่เสียเค่อ 徐霞客 นักเดินทาง นักเขียน และนักภูมิศาสตร์สมัยราชวงศ์หมิงได้มาเยี่ยมเยือนหวงซานถึง 2 ครั้ง พร้อมกับชื่นชมว่า “ภูเขาที่ใดก็ไม่สวยเท่าภูเขาหวงซาน ขึ้นภูเขาหวงซานแล้วก็ไม่อยากไปภูเขาไหนในแผ่นดินอีก” ซึ่งเป็นที่มาของคำกล่าวที่ว่า “กลับจากภูเขาทั้งห้าไม่มองภูเขาอื่น กลับจากหวงซาน ไม่มองภูเขาทั้งห้า”

อ่านเพิ่มเติม : ภูเขาศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 5 ตามความเชื่อของเต๋า / สี่พุทธคีรีศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของพุทธศาสนา

ลักษณะเฉพาะทางทัศนียภาพของหวงซาน

  1. ต้นสนแปลก ถือเป็นจุดชมทัศนียภาพที่สำคัญ เนื่องจากสภาพอากาศที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล ทำให้ต้นสนมีลักษณะใบสั้น หนา ยอดต้นสนไม่แหลม ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของต้นสนของหวงซาน จึงทำให้มีต้นสนลักษณะแปลกหลายต้น เช่น ต้นสนรับแขก ต้นสนเล็บมังกร ต้นสนคู่รัก เป็นต้น อ่านเพิ่มเติม สนรับแขก ที่หวงซาน
  2. หินแปลก เนื่องจากลักษณะทางธรณีวิทยาของหวงซาน เป็นหินแกรนิตที่ผ่านแดด ผ่านฝนมาเป็นเวลานาน จนทำให้เกิดลักษณะหินประหลาด เช่น หินบินมา หินลิงมองทะเล เป็นต้น
  3. ทะเลเมฆ เนื่องจากความชื้นสูง จนกลายเป็นหมอกหนา เหมือนกับทะเลหมอก เมื่ออยู่กับสภาพแวดล้อมทั้ง ต้นสน ป่าไม้ และหินแปลก จึงทำให้หวงซานมีทัศนียภาพที่แปลกตา
  4. น้ำพุร้อน ที่หวงซานมีน้ำพุร้อนที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย อีกทั้งยังมีน้ำตกซึ่งทำให้เกิดลำธาร เช่น น้ำตกไป่จ้างเฉวียน น้ำตกจิ่วหลง (เก้ามังกร)
  5. หิมะในฤดูหนาว ทัศนียภาพในฤดูหนาวที่หวงซาน ทั้งพื้นที่จะถูกปกคลุมด้วยหิมะสีขาวสลับกับสีเทาของหินแกรนิต และมีทะเลหมอกเกิดขึ้น ถือเป็นภาพที่งดงาม

หวงซานถือเป็นหนึ่งในยอดเขาศักดิ์สิทธิ์ของพุทธศาสนา โดยมีการสร้างวัดเกือบ 100 แห่งขึ้นบนเขา หลี่ไป๋ กวีเอก เคยเดินทางมาที่หวงซาน และได้แต่งบทกวีบรรยายความงดงามของเขาหวงซาน จนทำให้ภูเขาแห่งนี้กลายเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย

ในสมัยจักรพรรดิ์หมิงเสินจง ในช่วงปลายราชวงศ์หมิง มีพระภิกษุนามว่าผู่เหมิน ได้เดินทางแสวงธรรมมาจนถึงหวงซาน และได้ทำการก่อสร้างถนน โดยการสกัดเส้นทางตามหน้าผาสูงชันบนเขาหวงซาน จนเป็นเส้นทางเดินสู่ยอดเขา กว่า 4 ปีจึงสำเร็จ จากนั้นมาอีกกว่า 400 ปี ได้กลายเป็นเส้นทางหลักที่นักท่องเที่ยวใช้ในการปีนขึ้นยอดเขาหวงซานในปัจจุบัน

เดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ.1979 เติ้ง เสี่ยว ผิง ได้เดินทางมาเยือนหวงซาน และได้มีคำกล่าวว่า “ต้องมีความปรารถนาและปณิธานอันยิ่งใหญ่ ถึงจะพาชื่อหวงซานออกสู่ภายนอกได้” ทำให้คณะกรรมการบริหารประจำมณฑลอันฮุยเปิดประชุมครั้งใหญ่เพื่อพิจารณาการท่องเที่ยวภูเขาหวงซาน และในเดือนตุลาคม ปีเดียวกัน ภูเขาหวงซานก็เปิดสู่ภายนอกอย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ภูเขาหวงซานได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกจากยูเนสโกทั้งทางธรรมชาติและวัฒนธรรมในปี 2004

Credit to 中国黄山

ติดตามท่องเที่ยวจีน ได้ที่ Fanpage Chinatalkstravel