ตังลิ้วฮุดกุน 东琉佛君 หรือ เอี๊ยะอ๊วงไต่เต่ 药王大帝 ราชาโอสถ บรมครูสูงสุด หรือ โอสถราชา เชื่อกันว่า ตั้งลิ้วฮุกกุง คือ เซียนสูงสุดที่สถิตอยู่ในแดนสวรรค์ตะวันออก เป็นราชาแห่งยาตามความเชื่อของเต๋า
ท่านคือกษัตริย์เสินหนง หนึ่งในสามราชา 三皇 ในยุคจีนโบราณ ชาวจีนยกย่องให้ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งการค้าการเกษตร รวมทั้งเป็นหมอยาด้วย ตามประวัติศาสตร์จีนระบุว่า
ก่อนประสูติกาลของพระองค์ พระมารดาของพระองค์ทรงพระสุบินว่า พระนางได้กินพระอาทิตย์และพระจันทร์เข้าไปในพระครรภ์ และพระองค์ต้องอยู่ในพระครรภ์มารดานานถึง 16 ปี เมื่อคลอดออกมาแล้ว พระองค์ทรงมีผมขาวทั้งศีรษะและมีความเชี่ยวชาญในการค้นคว้ายาสมุนไพรรักษาโรคเป็นพิเศษ
ในการค้นคว้ายาสมุนไพรนั้น พระองค์ยอมเสียสละตนเองชิมสมุนไพรทุกชนิด ทั้งๆ ที่บางชนิดก็มีพิษ ทำให้ต้องสลบไปครั้งละหลายวันก็มี เมื่อเจ้าแม่สวรรค์ตะวันตก 西王母娘 ทรงทราบเรื่องนี้เข้าก็เกิดความสงสาร จึงได้ประทานแส้วิเศษมาให้ เพื่อใช้ทดสอบพิษ หรือ สรรพคุณของพืชสมุนไพรต่างๆ จะได้ไม่ต้องชิมด้วยตนเองอีก เพียงแค่ฟาดแส้วิเศษไปที่พืชชนิดใด ถ้าแส้วิเศษเปลี่ยนแปลง เป็นสีแดงแสดงว่า พืชนั้นมีสรรพคุณในทางกินแล้ว ร้อน ถ้าแส้เปลี่ยนเป็นสีขาว แสดงว่ามีสรรพคุณในทางกินแล้วเย็น แต่ถ้าเป็นสีดำ แสดงว่าพืชมันมีพิษ
ในตามความเชื่อของเต๋า ตังลิ้วฮุดกุน 东琉佛君 นั้น มีสองสภาวะ สภาวะหนึ่งอยู่บนฟ้า อีกสภาวะหนึ่งสถิตอยู่ในศีรษะส่วนกลางสมองของมนุษย์ทุกคน เป็นไปตามความเชื่อที่ว่าคนเรานั้นเป็นส่วนย่อของจักรวาล
สมอง คือ ส่วนบน เหนือดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ กลางหน้าผาก(อุณาโลม) ซึ่งเปรียบกับดวงตาทั้งสองข้างของมนุษย์ ตาซ้ายเปรียบเสมือนพระอาทิตย์ ตาขวาเปรียบเสมือนพระจันทร์ สังเกตได้จาก รูปลักษณ์ของพระองค์ที่ประทับบนแท่นประทับ พระบาทซ้ายทรงประทับอยู่บนพระอาทิตย์พระบาทขวาทรงประทับอยู่บนดวงจันทร์
ด้วยเหตุนี้ ประติมากรรมนักพรตเต๋าทุกพระองค์จะทรงถือแส้ที่พระหัตถ์ข้างขวาและเชื่อกันว่าแส้นี้เป็นแส้วิเศษ
รูปลักษณ์ขององค์ตังลิ้วฮุกกุง จะมีฉลองพระองค์เป็นใบไม้ เนื่องจากในยุคจีนโบราณ ชาวจีนยังไม่รู้จักการทอผ้า มือขวาถือแส้วิเศษ มือซ้ายถือหัวไชเท้า เนื่องจาก หัวไชเท้า มีฤทธิ์เย็น สามารถล้างสารพิษได้ โดยตำนานได้กล่าวว่า ท่านลองชิมสมุนไพรทุกชนิดแล้วได้ใช้หัวไชเท้าล้างสารพิษออก จึงเป็นความเชื่อที่มาของการกินยาจีนแล้ว ห้ามกินหัวไชเท้าเพราะเชื่อว่าจะล้างตัวยาออกหมด)
จากคุณูปการอันใหญ่หลวงที่พระองค์ทรงเสียสละตนเองในการค้นคว้ายารักษาโรคให้กับผู้คนในสมัยนั้น ถือได้ว่าพระองค์คือปรมาจารย์ทางการแพทย์ที่ยิ่งใหญ่ของคนจีนโบราณ เมื่อพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ลงผู้คนได้ให้ความเคารพยกย่องในฐานะของเทพเจ้าแห่งแดนสวรรค์ตะวันออก และผู้คนได้นับถือท่านในฐานะ เอี๊ยะอ๊วง 药皇 หรือโอสถราชา