ปีศาจจิ้งจอก หรือเดิมใช้ว่า ปิศาจเสือปลา 狐狸精 เป็นปีศาจตามความเชื่อของจีน ซึ่งเชื่อกันว่า สรรพสิ่งสามารถมีอำนาจวิเศษ มีชีวิตอมตะ และแปลงเป็นมนุษย์ได้ ถ้าได้บำเพ็ญตบะมานานพอสมควร
มีความเชื่อว่า ปีศาจจิ้งจอกเก้าหาง 九尾狐 เกิดจากสุนัขจิ้งจอกที่อยากเป็นมนุษย์จึงบำเพ็ญเพียรเพื่อให้มีวิชาอาคม และเมื่อบำเพ็ญเพียรครบ 100 ปี จะมีหางเพิ่มขึ้นมาอีก 1 หาง และเมื่อบำเพ็ญเพียรจนมีครบ 9 หาง จะมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้าเป็นอย่างมาก และสามารถแปลงกายเป็นมนุษย์ได้
ในตำราซานไห่จิง 山海经 หรือ คัมภรี์ขุนเขาและท้องทะเล หนังสือโบราณสมัยก่อนราชวงศ์ฉิน (ประมาณ 400 ปี ก่อนคริสตกาล) หนังสือบันทึกเกี่ยวกับเรื่องราวของ เทพนิยาย , ปีศาจ, สัตว์ประหลาด, นิทานปรัมปรา ตลอดจนด้านภูมิศาสตร์ วัฒนธรรมของจีนในสมัยโบราณ ได้บรรยายถึงลักษณะของจิ้งจอกเก้าหางไว้ว่า
ภูเขาชิงชิว
จิ้งจอกเก้าหาง
มีสัตว์ชนิดหนึ่ง รูปร่างเหมือนจิ้งจอกแต่มีเก้าหาง มีเสียงร้องเหมือนทารก กินคน กินเนื้อ จิ้งจอกเก้าหางช่วยขจัดกลิ่นอาย ปีศาจ
จากภูเขาจีขานไปทางตะวันออกสามร้อยลี้ก็จะถึงภูเขาชิงชิว ลึกเข้าไปในภูเขาลูกนี้เป็นที่อยู่ของจิ้งจอกเก้าหางในตำนาน
จิ้งจอกเก้าหางมีรูปลักษณ์อย่างจิ้งจอก มีหางยาวเก้าหาง เสียงร้องเหมือนทารกร้องไห้ สัตว์ชนิดนี้กินคน และหากมนุษย์เป็นฝ่ายกินมันเสียเองก็จะสามารถขจัดกลิ่นอายปีศาจและความชั่วร้ายทั้งหลายได้ เหมือนกับนักพรตเต๋าที่พกยันต์หรือคัมภีร์คุ้มภัย
เล่ากันว่าพื้นที่แถบนั้นมีบทเพลง ที่ขับขานว่า “ผู้ที่โชคดีได้พบกับจิ้งจอกเก้าหางก็จะมีโอกาสเป็นเจ้าเหนือแผ่นดิน ในตำนานยังเล่าว่า เมื่อครั้งที่ต้าอวี่อายุสามสิบ เขาได้เดินทางผ่านภูเขาถูซานและ พบเห็นจิ้งจอกขาวเก้าหางตัวหนึ่ง ภายหลังต้าอวี่ก็กลายเป็นจักรพรรดิ
ภาพของ จิ้งจอกเก้าหางพบบนเครื่องสัมฤทธิ์ในสมัยราชวงศ์โจวตะวันตก จากนั้นจิ้งจอกเก้าหางก็ปรากฏข้างกายเจ้าแม่ชีหวังหมู่พร้อมกับคางคกและนกสามขา
การได้เลื่อนสถานะจากสัตว์ประหลาดไปเป็นสัญลักษณ์แห่งความมงคลก็อาจเนื่องมาจากภายหลังจิ้งจอกเก้าหางบำเพ็ญตนจนบรรลุขั้นเซียนและซ่อนตัว อย่างเร้นลับอยู่ ณ ภูเขา เทวะคุนหลุน
ปีศาจจิ้งจอกในเรื่องห้องสิน
ปิศาจจิ้งจอก ซึ่งเป็นที่รู้จักมากที่สุดตัวหนึ่ง คือ ปิศาจจิ้งจอกเก้าหาง ในนิยายเรื่อง เฟิงเฉินเหยี่ยนอี้ 封神演义 หรือ 是ห้องสิน สถาปนาเทวดา ของสฺวี่ จ้งหลิน 许仲琳 ในสมัยราชวงศ์หมิง
เรื่องราวเริ่มจาก จักรพรรดิโจ้ว แห่งราชวงศ์ซาง ได้เสด็จไปถวายสักการะพระแม่หนี่วา แล้วเห็นเทวรูปสลักงดงามประดุจมีชีวิต จึงแต่งเป็นบทกวีชมโฉมองค์เทวีด้วยถ้อยคำที่จาบจ้วงแสดงความกำหนัด แล้วทรงมีพระราชโองการให้นำโคลงนั้นประดับไว้ในเทวสถาน
การกระทำของ จักรพรรดิโจ้ว ทำให้พระแม่หนี่วาโกรธมาก จึงส่งปีศาจจิ้งจอก ปีศาจพิณ และปิศาจไก่ มาทำลาย จักรพรรดิโจ้ว
ขณะเดียวกัน จักรพรรดิโจ้ว ก็สั่งให้ตามสาวงามที่มีใบหน้าสวยงามดั่งเช่นพระแม่หนี่วา จนกระทั่งพบ ซูต๋าจี ธิดาของมหาเศรษฐีผู้หนึ่ง สาวงามที่มีใบหน้าคล้ายพระแม่ แต่เคราะห์ร้ายที่ ซูต๋าจี ถูกปีศาจจิ้งจอกสังหารก่อนถวายตัวเป็นสนมแล้วเข้าสิงร่างของเธอ
หลังจากนั้น ซูต๋าจี ที่ถูกนางปีศาจจิ้งจอกเข้าสิง ก็ใช้มารยายุยงให้จักรพรรดิโจ้วหลงผิด ไม่เป็นอันว่าราชการ มัวเมาในสตรี จัดงานเลี้ยงหรูหราในวัง ก่อสร้างหอคอยสอยดาวสูงเสียดฟ้าที่มาจากการขูดรีดภาษีประชาชน เกณฑ์แรงงานมาก่อสร้างจนล้มตายไปมาก ใครขัดหรือโต้แย้งก็ถูกประหารหมด ขณะเดียวกันนางก็แอบพาเหล่าปีศาจเข้ามาสิงสู่ในวังมากขึ้น
เมื่อบ้านเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย หยวนสื่อเทียนจุน หนึ่งในมหาเทพของเต๋า จึงบัญชาให้ศิษย์ ชื่อ เจียงจื่อหยา มายังโลกมนุษย์เพื่อกำจัดซูต๋าจี
เจียงจื่อหยา เจียงไท่กง นั่งตกปลา รอคอยมีผู้มีบญมาเชิญให้ไปช่วยเหลือ จนจีซาง หรือโจวเหวินหวัง มาเชิญให้ไปเป็นกุนซือ นำทัพเพื่อบุกโจมตีนครเฉาเกอ และโค่นล้มจักรพรรดิโจ้ว ได้สำเร็จ
สุดท้าย ปีศาจทั้งสามถูกคุมตัวไปตัดสินโทษ เจ้าแม่หนี่วา ตัดสินว่าให้ปีศาจจัดการแค่จักรพรรดิโจ้ว แต่กลับทำเกินกว่าเหตุ สมควรจะต้องถูกลงโทษ ปิศาจพิณและปิศาจไก่ถูกลงโทษจนถึงแก่ความตาย มีเพียงจิ้งจอกเก้าหางเท่านั้นที่สามารถหลบหนีการลงโทษไปได้