บัลลังก์ (宝座) มีความหมาย หมายถึง ที่นั่งขนาดใหญ่ ส่วนราชบัลลังก์นั้น หมายถึงที่ประทับของกษัตริย์หรือผู้ปกครองประเทศ และยังเป็นสัญลักษณ์ถึงอำนาจของจักรพรรดิ์
นับตั้งแต่ในสมัยจักรพรรดิหย่งเล่อ แห่งราชวงศ์หมิง ได้มีการย้ายเมืองหลวง จากเมืองนานกิง มาที่กรุงปักกิ่ง และได้มีการสร้างพระราชวังต้องห้าม กู้กง ขึ้นนั้น ในพระราชวังต้องห้ามได้มีการสร้างพระที่นั่ง ซึ่งเป็นสถานที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ หลายองค์ และแต่ละพระที่นั่งก็ได้มีบัลลังก์ที่ประทับของฮ่องเต้ ที่มีความงดงามแตกต่างกันไปในแต่ละพระที่นั่ง
เขตพระราชฐานชั้นนอก (外朝) หรือส่วนหน้า (前朝) ทางใต้ มีตำหนักที่สำคัญ ๆ 3 ตำหนักที่อยู่ตรงกลางคือ
พระตำหนักไถ่เหอ (太和殿) เป็นศูนย์กลางพระราชอำนาจขององค์ฮ่องเต้ และเป็นอาคารโครงสร้างไม้ที่ใหญ่ที่สุดที่ยังหลงเหลืออยู่ในประเทศจีน ตำหนักนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการพระราชพิธีเท่านั้น เช่น พระราชพิธีบรมราชาภิเษก พระราชพิธีสถาปนา และพระราชพิธีราชาภิเษกสมรส
พระตำหนักจงเหอ (中和殿) ใช้สำหรับให้ฮ่องเต้พักผ่อนในช่วงก่อนและในระหว่างพระราชพิธี
พระตำหนักเป่าเหอ (保和殿)ใช้สำหรับฝึกซ้อมการพระราชพิธี และเป็นสนามสอบขั้นสุดท้ายของการสอบขุนนาง
เขตพระราชฐานชั้นใน (内廷) หรือวังหลัง (后宫) ทางทิศเหนือ ใช้เป็นที่ประทับของฮ่องเต้และพระบรมวงศานุวงศ์ มีตำหนักที่สำคัญ ๆ 3 ตำหนักที่อยู่ตรงกลางคือ
พระที่นั่งเฉียนชิง (乾清宮) สถานที่ประทับขององค์ฮ่องเต้ จวบจนรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิยงเจิ้งแห่งราชวงศ์ชิงนั้น องค์ฮ่องเต้จึงได้ไปประทับอยู่ที่พระตำหนักหยางซิน (养心殿) ทางฝั่งตะวันตก ส่วนพระที่นั่งเฉียนชิงจึงถูกเปลี่ยนเป็นท้องพระโรงแทน
อ่านเพิ่มเติม เจิ้งต้ากวงหมิง เที่ยงตรงเจิดจรัส ณ พระราชวังต้องห้าม
พระตำหนักเจียวไถ่ (交泰殿) พระตำหนักที่อยู่ตรงกลางระหว่าง พระที่นังเฉียนชิง (ที่พักของฮ่องเต้) และ พระที่นั่งคุนหนิง (ที่พักของฮองเฮา) เปรียบเสมือนสถานที่ที่หยินและหยางผสมผสานกันอย่างกลมกลืน
พระที่นั่งคุนหนิง (坤宁宫) ที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดินี หรือฮองเฮา 皇后 และเป็นสถานที่สำหรับใช้ในคืนวันพระราชพิธีราชาภิเษกสมรสขององค์ฮ่องเต้
ที่มารูปภาพ 故宫博物馆